
ตัดสินชะตาประเทศ... ทักษิณระทึก ยึดทรัพย์
ศาลฎีกาอ่านบ่ายวันนี้ อดีตนายกฯลุ้นที่ดูไบ ระดมตร।พร้อมรับมือ พท।ขู่ม็อบแดงพลีชีพทุกฝ่ายเครียด จับตาคดีประวัติศาสตร์ ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7।6 หมื่นล้านบาท "เทพเทือก"วอนทุกฝ่ายยอมรับคำตัดสินคดียึดทรัพย์ เชื่อคนไทยคิดได้ "ทักษิณ" ทำเพื่อตัวเอง ยันไม่ใช้กฎหมายพิเศษสกัดกลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ หยันม็อบแดงมาไม่ถึงล้าน ขู่ม็อบปิดถนนจับ "จตุพร" ทันที "ทักษิณ ชินวัตร" ทวิตรอฟังคำพิพากษาอยู่ที่ดูไบ เสธ।แดงการันตี "ทักษิณ" ไม่เคยสั่งใช้กำลัง "จตุพร พรหมพันธุ์"แกนนำ นปช।ย้ำเสื้อแดงไม่ป่วนเมืองวันที่ 26 ก.พ. ระบุหากมีเหตุการณ์ วุ่นวายเป็นฝีมือรัฐบาล พท.ขู่รัฐบาล ม็อบแดงชุมนุมใหญ่ระวังระเบิดพลีชีพ ปูดรัฐบาลขึ้นบัญชีดำเครือข่ายทักษิณ ส่งคนประกบจับตาใกล้ชิดขณะที่หลายฝ่ายต่างรอดูว่าสถานการณ์การเมืองจะรุนแรงหรือไม่นั้น ทางฝ่ายรัฐบาลต่างดาหน้าออกมายืนยันว่าได้เตรียมการพร้อมเพื่อรับมือหากมีเหตุการณ์ วุ่นวาย หรือมีการสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงยันไม่ใช้ กม.พิเศษคุมม็อบแดงเมื่อวันที่ 25 ก.พ. เวลา 08.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการวางมาตรการดูแลสถานการณ์การชุมนุม หลังกลุ่มเสื้อแดงประกาศจะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12-14 มี.ค.นี้ว่า ไม่จำเป็นต้องประกาศกฎหมายพิเศษ อย่างที่ตนเคยบอกว่า ที่จริงการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ถ้าหากการชุมนุมนั้นไม่ละเมิดสิทธิของประชาชนคนอื่นไม่ทำลายสถานที่ราชการหรือไม่บุกรุกสถานที่ราชการ ไม่ขัดขวางการดำเนินชีวิตตามปกติของประชาชนทั่วไปหรือเรียกง่ายๆว่าไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย ก็สามารถชุมนุมได้ ไม่ว่าจะชุมนุมกี่วันก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไร รัฐบาลก็จะไม่ไปขัดขวาง อะไรทั้งสิ้น ดังนั้นยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ประกาศใช้กฎหมาย พิเศษ ถ้าเมื่อใดเห็นว่ากลุ่มคนที่มาชุมนุมมีพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนกฎหมายและจะทำให้เกิดความเสียหายให้กับประเทศชาติและประชาชน ก็จำเป็นต้องใช้กฎหมายที่มีอยู่เป็นการเฉพาะ วอนรับคำตัดสินคดียึดทรัพย์เมื่อถามว่า มองว่าที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศชุมนุมล่าช้าออกไป เป็นเพราะกระแสตกลงไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่าอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพราะกระแสตกหรือกระแสขึ้น ทั้งหมดตนคิดว่าในการตัดสินคดีในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ประชาชนทั่วประเทศจะได้ฟังคำพิพากษา ซึ่งต้องถือว่าเป็นคดีประวัติศาสตร์ ไม่เคยมีการพิจารณาพิพากษาคดีที่เกี่ยวกับการยึดทรัพย์สินของนักการเมืองตั้ง 7 หมื่นกว่าล้าน ที่แล้วมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้เคยพิพากษายึดทรัพย์ ข้าราชการ นักการเมือง เพียงแค่ 100-200 ล้านบาทเท่านั้น แต่คดีนี้เป็นคดีใหญ่ ดังนั้นประชาชนทั้งหลายก็จะได้ศึกษาจากคำพิพากษาว่า มีเหตุผลข้อกฎหมายอย่างไรที่ทำให้ศาลฎีกาได้พิพากษาอย่างนั้น เมื่อฟังคำพิพากษาแล้วทุกคนก็ควรยอมรับคำพิพากษา เพราะอำนาจตุลาการเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยในระบอบประชาธิปไตย ของประเทศไทย ดังนั้นถ้าทุกคนยอมรับในอำนาจอธิปไตยนี้ บ้านเมืองก็สงบเรียบร้อย ส่วนการที่จะมาชุมนุมประท้วงในทางการเมือง อย่างที่เขาแถลงว่าต้องการกดดันให้รัฐบาล ยุบสภานั้น ขอให้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าเป็นไปอย่างนี้ บ้านเมืองก็ไม่มีปัญหาอะไร สั่ง ผวจ.คุมเข้มสถานที่ราชการนายสุเทพกล่าวว่า ได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศช่วยกันดูแลและรักษาสถานที่ราชการในแต่ละจังหวัด เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะที่เป็น ผอ.รมน. จังหวัด มีอำนาจที่จะบูรณาการการปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ และใช้กำลังตำรวจ ทหาร และพลเรือนได้ ก็ขอให้ช่วยกันดูแลบ้านเมืองให้ด้วย เมื่อถามว่า จังหวัดที่กลุ่มเสื้อแดง จะนัดรวมตัวก่อนเดินทางเข้า กทม. เช่น จ.นครสวรรค์ นครราชสีมา และสระบุรี จะมีการสั่งดูแลให้เข้มงวดมากขึ้นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า วันนี้ตนจะกำชับ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.ว่าให้ย้ำกับผู้บัญชาการตำรวจ ภูธรแต่ละภาค ผู้บังคับการตำรวจแต่ละจังหวัด ซักซ้อมดูแลการแก้ไขปัญหา ถ้าหากผู้ชุมนุมล้ำเข้ามาในพื้นที่ถนน ในลักษณะที่เป็นการปิดกั้นการจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแก้ไขปัญหา เชื่อคนคิดได้ทักษิณทำเพื่อตัวเองผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าหากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการตัดสินของศาลในวันที่ 26 ก.พ. แม้แผ่นดินกลบหน้าจะยังไม่ยอม นายสุเทพกล่าวว่า สักวันหนึ่งคนไทยก็คงจะฉุกใจคิดได้ว่า ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวเท่านั้นเอง ไม่ได้เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของไทยโดยส่วนรวม พ.ต.ท.ทักษิณจะเลือกวิธีการต่อสู้อย่างไรก็ได้ เป็นสิทธิ์ เพียงแต่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องเคารพกฎหมาย จะต้องยอมรับกฎหมาย ถ้าให้คนไทยทั้งประเทศเคารพกฎหมาย แต่ยกเว้น พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวที่ไม่ยอมเคารพกฎหมาย อย่างนี้ พ.ต.ท.ทักษิณก็ไปกับคนอื่นไม่ได้ย้ำดูแลองค์คณะผู้พิพากษาเต็มที่ต่อข้อถามว่า ได้รับรายงานเรื่องความไม่ปลอดภัยขององค์คณะผู้พิพากษาหรือไม่ เพราะขณะนี้มีตุลาการสองคนขอเข้าไปอยู่ในเซฟเฮาส์ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ต้องวิตกกังวล ทางฝ่ายความมั่นคงได้ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับองค์คณะผู้พิพากษาอย่างเต็มที่ โดยตนได้สั่งการเกี่ยวกับการปฏิบัติไปแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 26 ก.พ. ได้มีการสั่งการหน่วยงานด้านความมั่นคงเป็นพิเศษหรือไม่เกี่ยวกับการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย นายสุเทพกล่าวว่า ได้ซักซ้อมทำความเข้าใจไว้เป็นอย่างดีแล้ว หน้าที่ของเราคือดูแลให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย ทุกฝ่ายก็จะทำไปตามที่ได้มีการซักซ้อมกันไว้ เมื่อถามว่า ที่บอกว่าคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคดีประวัติศาสตร์และมีความสำคัญมาก ในส่วนของรัฐบาลเตรียมรับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงที่อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ได้เตรียมการไว้อย่างรัดกุมแล้ว เป้าหมายคือรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้ให้ได้ รักษาภาพลักษณ์ของประเทศไทย และพยายามวิงวอนไปยังผู้ที่จะชุมนุมทั้งหลายว่าโปรดเคารพกฎหมาย ส่วนการระมัดระวังทุกคนจะเห็นว่าเมื่อวานนี้ตนได้ไปเปิดศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัย และพยายามวิงวอนไปยังผู้ที่จะชุมนุมทั้งหลายว่าโปรดเคารพกฎหมาย ประเมินม็อบแดงมาไม่ถึงล้านเมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงบอกว่าตอนนี้ทางรัฐบาลเตรียมการทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำลายส่วนราชการต่างๆ หรือการเผาก็โยนไปให้กลุ่มคนเสื้อแดงหรือกลุ่ม นปช. นายสุเทพกล่าวว่า ใครที่เป็นคนพูดอย่างนั้นเป็นคนโกหก รัฐบาลจะทำไปทำไม รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย รัฐบาลจะไปสร้างเหตุร้ายขึ้นมาทำไม คนที่พูดนั้นโกหกหรือไม่ก็ตั้งใจที่จะทำ แล้วพยายามบิดเบือนให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลสร้างสถานการณ์ ยืนยันว่าตนไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าประชาชนเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น แสดงว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุมไม่ถึง 1 ล้านคน ตามที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงได้ประกาศใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ถึงอย่างนั้น แต่ตนไม่ได้พูดเป็นการท้าทาย แต่พูดเพื่อให้ประชาชนสบายว่า คนไทยไม่มีใครอยากเห็นอะไรเกิดขึ้นในลักษณะที่เป็นความรุนแรงในบ้านเมือง ประชาชนไม่สนับสนุนสั่งดำเนินคดีแท็กซี่ปิดล้อมศาลเมื่อถามถึงกรณีที่นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ากลุ่มเสื้อแดงจะใช้กลุ่มรถแท็กซี่ไปปิดล้อมศาลฎีกาในวันที่ 26 ก.พ. นายสุเทพกล่าวว่า เราเตรียมการป้องกันไว้แล้ว ใครทำผิดกฎหมายจะดำเนินคดี ขอให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจะพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด และมาตรการต่างๆที่เตรียมไว้ตนเชื่อมั่นว่า จะสามารถรับมือกับเหตุการณ์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประชาชนให้ความร่วมมือ และแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่สนับสนุนการก่อการรุนแรงอย่างนี้ จะทำให้รัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้น ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ที่จะใช้ ตนจะใช้ตามความจำเป็นลั่นม็อบปิดถนนจับ "จตุพร" ทันทีเมื่อถามว่า แต่การเคลื่อนขบวนการเข้ามาใน กทม. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงบอกว่าหากถูกสกัดกั้นจะปิดถนนทันที นายสุเทพกล่าวว่า ถ้านายจตุพรสั่งปิดถนน ตนก็จับนายจตุพร เพราะถือว่าเป็นผู้สั่งการให้ประชาชนทำผิดกฎหมาย แต่ถ้าเดินทางมาตามปกติไม่มีการปิดถนนรัฐบาลก็ไม่ว่าอะไร ส่วนเรื่องการตรวจค้นเป็นเรื่องธรรมดา โดยจะต้องตรวจค้นไม่ให้มีการพกพาอาวุธเข้ามา เพราะการพกพาอาวุธเข้ามาในที่สาธารณะเป็นสิ่งผิดกฎหมายอยู่แล้ว เรารักษากฎหมายของบ้านเมือง ถ้านายจตุพรจะทำตัวเป็นคนนอกกฎหมายตนก็ต้องดำเนินคดีกับนายจตุพร เมื่อถามว่า จะคาดโทษกับผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มี เจ้าหน้าที่รัฐจะทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบ ทุกคนมีสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ตนมั่นใจในเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่าย ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการข่าวอะไรที่น่าเป็นห่วง ไม่มีเหตุอะไรที่รุนแรง และตนภาวนาว่าขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นเลย บ้านเมืองกำลังไปได้ด้วยดี หากเกิดปัญหาความรุนแรงทางการเมืองรัฐบาลได้เตรียมทางออกไว้อย่างไรบ้าง นายสุเทพกล่าวว่า เตรียมการเอาไว้ที่จะแก้ปัญหาทุกอย่าง เรามีหน้าที่แก้ปัญหา ดูแลบ้านเมือง ยืนยันว่าไม่หมดหนทางแก้ปัญหา ทุกอย่างมีหนทางเสมอ และในวันพรุ่งนี้ตนจะมาทำงานตามปกติคตส.ไร้กังวลเชื่อไม่มีเหตุรุนแรงนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า ผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ จะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนตัวไม่กังวลเพราะถือว่าภารกิจการทำหน้าที่ของ คตส.ได้สิ้นสุดแล้ว และที่ผ่านมาก็ทำงานมาอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ อดีตคณะกรรมการ คตส.แต่ละคนก็ไม่ได้นัดกันเพื่อฟังการตัดสินของศาลฎีกาเป็นกรณีพิเศษ ส่วนข้อกังวลที่อาจเกิดปัญหารุนแรงภายหลังการพิจารณาคดีนั้น ตนเห็นว่า คงไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงแต่อย่างใด เพราะรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงดูแลเรื่องนี้เป็นอย่างดี"แก้วสรร" ลั่นทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วด้านนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตเลขานุการ คตส. กล่าวว่า ผลการตัดสินของศาลท่านจะออกมาในรูปแบบใดนั้น ก็คงขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาล และ คตส.ได้ทำหน้าที่สิ้นสุดและเต็มความสามารถแล้ว ทั้งนี้ ตนไม่รู้สึกกังวลอะไรเลย เพราะถ้ากังวลคงไม่มาทำงานนี้ตั้งแต่แรก รู้สึกเฉยๆ สบายๆ มากกว่า ขณะที่นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษก คตส. กล่าวว่า คตส.ไม่ได้นัดหารือกันนอกรอบ หรือนัดเพื่อฟังการพิจารณาคดีร่วมกันเป็นพิเศษ ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ระบุว่า คตส.จะได้รับเงิน 25 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ชี้เบาะแสคดียึดทรัพย์นั้น เรื่องนี้ คตส.ชี้แจงไปแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เรื่องนี้ใครจะพูดอะไรก็พูดได้ เพราะคนที่พูดไม่มีอะไรจะพูดเลขาฯ ศาลยุติธรรม ย้ำพร้อมรับมือนายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมก่อนนัดอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่ 26 ก.พ. ในเวลา 13.30 น. ว่า ถึงวันนี้เจ้าหน้าที่ของศาลยุติธรรมและศาลฎีกาทุกคนพร้อมเต็มที่ในการรับมือต่อทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี เชื่อว่าน่าจะไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใดๆเกิดขึ้น สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเข้มงวดตรวจสอบบุคคลที่เข้า-ออก โดยเฉพาะในวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะเปิดให้คู่ความ ผู้มาสังเกตการณ์และสื่อมวลชนเข้ามาภายใน บริเวณศาลฎีกาทางประตูด้านถนนหน้าหับเผยเพียงฝั่งเดียว เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบและดูแลรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังได้กั้นรั้วเหล็กโดยรอบอาคารศาลฎีกาและติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยรอบบริเวณ ส่วนจะต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้ามาช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยมากน้อยเพียงใดนั้น ถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองที่จะประเมินสถานการณ์อีกครั้งกทม.สั่งปิด 4 โรงเรียนรอบศาลฎีกาวันเดียวกัน นายเสือชนะ สุดเจริญ ผอ.เขตพระนคร เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 ก.พ. ได้สั่งให้ปิดโรงเรียนในพื้นที่ จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนวัดพระเชตุพน โรงเรียน วัดมหรรณพ์ โรงเรียนวัดราชนัดดา และโรงเรียนวัดมหาธาตุ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากร นอกจากนี้ทางเขตได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจดูแลความปลอดภัยในพื้นที่รอบศาลฎีกาในช่วงกลางวันรวม 70 นาย และในช่วงกลางคืนอีก 40 นาย โดยสนธิกำลังร่วมกับทางทหารและเจ้าหน้าที่ ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกบริเวณรอบศาลฎีกาด้วย โดยได้ตั้งกองอำนวยการร่วมกันบริเวณหน้าศาลฎีกา 1 จุด และบริเวณด้านหลังศาลฎีกาอีก 1 จุด นอกจากนี้ ยังได้ตั้งกองอำนวยการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณท้องสนามหลวงอีก 1 จุด พร้อมทั้งได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าดูแลความปลอดภัยในพื้นที่รอบสนามหลวง รวมทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกของงานสัปดาห์วันมาฆบูชาด้วยการันตี "ทักษิณ" ไม่เคยสั่งใช้กำลังวันเดียวกัน พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณีที่มีความเป็นห่วงว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะสร้างความรุนแรงในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ที่จะมีการพิพากษายึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ผ่านมาที่สื่อต่างๆมีการ วิเคราะห์ว่าจะเกิดเหตุรุนแรงในวันที่จะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์นั้น เป็นการวิเคราะห์ที่ผิดหมด ตนรู้เรื่องนี้ดี เพราะตนเพิ่งกลับจากไปหา พ.ต.ท.ทักษิณที่ดูไบ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา และจากที่ตนได้ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ขอฟันธงว่าท่านไม่เคยพูดกับตนสักคำว่าให้ใช้ กำลัง พ.ต.ท.ทักษิณพูดอยู่คำเดียวว่าต้องขอความยุติธรรม จากศาลโลกแดงไม่ป่วน 26 ก.พ. หากวุ่นฝีมือ รบ."ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยพูดสักคำว่าให้ใช้ กำลัง ทั้งที่รู้ว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลโจร และท่านรู้ว่า เสธ.แดง มีขีดความสามารถที่จะทำอะไรได้หมด แต่ท่านไม่เคยสั่ง ท่านบอกคำเดียวว่า ต้องขอความเป็นธรรมจากระบบศาล พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ท่านจึงไม่เคยคิดที่จะ ใช้กำลัง ทั้งที่ เสธ.แดงหมั่นไส้การปกครองของรัฐบาลในขณะนี้ ที่มีแต่การใส่ร้ายป้ายสี แทบใจจะขาด ดังนั้น หากเกิดอะไรขึ้นในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ยืนยันได้เลยว่า ไม่ใช่ฝีมือของคนเสื้อแดง แต่เป็นฝีมือของมือที่สาม หรือรัฐบาลทำเอง เพื่ออ้างความชอบธรรม หากเกิดอะไรขึ้นมารัฐบาลต้องรับผิดชอบที่ป้องกันมือที่สามไม่ได้" พล.ต.ขัตติยะกล่าวว่า ในการเดินทางไปพบ พ.ต.ท. ทักษิณที่ดูไบ ท่านไม่ได้สั่งอะไรตน เพียงแต่บอกให้ตนช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยกลุ่มคนเสื้อแดง ป้องกันไม่ให้ รัฐบาล กลุ่มเสื้อน้ำเงิน และกองทัพสร้างข้าศึกสมมติเข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย นอกจากนี้ ยังฝากให้ กลุ่มคนเสื้อแดงอย่าทะเลาะกัน "ตู่" ปูดมีวางระเบิดโยงปฏิวัติ วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.15 น. ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดง แถลงว่า ในวันที่ 26 ก.พ.ที่ศาลจะตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จำนวน 7.6 หมื่นล้านบาท ยืนยันว่าคนเสื้อแดงจะไม่ไปศาลฎีกาฯ เพราะรู้มาว่าจะมีการสร้างสถานการณ์ เช่น การวางระเบิดใน 1-2 วันนี้เพื่อนำไปสู่การปฏิวัติ เพราะมีทหารเข้ามา 21 กองร้อยพอที่จะทำรัฐประหารได้ จึงกำชับให้คนเสื้อแดง อย่าออกมาเคลื่อนไหวให้รอเวลาจนถึงวันที่ 14 มี.ค. วันชุมนุมใหญ่ เวลานั้นจะเป็นการสู้กันโดยใช้ความคิด ไม่มีอารมณ์การตัดสินคดีมาเจือปน หากเกิดเหตุอะไรขึ้น ภายใน 1-2 วันนี้ คนรับผิดชอบคือรัฐบาล แต่ถ้าเมื่อใด คนเสื้อแดงชุมนุมวันที่ 12-14 มี.ค. เราพร้อมรับผิดชอบทั้งหมด โดยขอให้ทุกคนอยู่กันเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ 7 วัน แต่ถ้าไม่จบภายใน 7 วัน ก็จะใช้วิธีสลับกันไปพักที่สนามหลวง ถนนราชดำเนิน และลานพระบรมรูปทรงม้า หากมีการดาวกระจายก็จะไปยังจุดที่จำเป็นครั้งละ 3-5 หมื่นคน ส่วนที่กลุ่มแดงสยามของนายสุรชัย ด่านวัฒนา-นุสรณ์ จะไปชุมนุมที่สนามหลวงในวันตัดสินคดีก็ไม่เกี่ยวกับ นปช.เป็นคนละองค์กรและเราจะไม่รับผิดชอบการกระทำใดๆของกลุ่มของนายสุรชัยข้ามรุ่นล่อ "เฉลิม" ระวังปากนายจตุพรกล่าวถึง ร.ต.อ.เฉลิมออกมาระบุว่าคนเสื้อแดงจะไม่สามารถนำรถกระบะ 1 แสนคัน มาชุมนุมได้ว่า ร.ต.อ.เฉลิมเป็นผู้ใหญ่ควรวางตัวให้เหมาะสมกับการเป็นแคนดิเดตนายกฯและประธาน ส.ส.พรรค การจะให้สัมภาษณ์อะไร ก็ควรระมัดระวัง ส่วนกรณี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรีและรองประธานสภา ระบุว่าจะมีการ ยื่นญัตติภายในสัปดาห์หน้านั้น ตนจะไปพูดคุยกับ พ.อ.อภิวันท์ว่า ขอให้เลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไปเป็นหลังการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดง มั่นใจว่า พ.อ.อภิวันท์จะเลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายไปหลังการชุมนุมใหญ่แน่ เพราะ พ.อ.อภิวันท์ก็เป็นเสื้อแดงคนหนึ่ง ส่วนการอภิปรายจะไม่มี ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่มีปัญหา เพราะพรรคเพื่อไทยก็มีบุคคลที่มีความสามารถหลายคนหลังตัดสินคดีจับตาบทบาท "ทักษิณ"วันเดียวกัน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. กล่าวว่า หลังจากการตัดสินไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเพิ่มมาตรการติดตามการหาข่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กอ.รมน. สมช.ให้มากขึ้น โดยจะจัดให้เจ้าหน้าที่มอนิเตอร์ช่องทางการสื่อสารของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้สนับสนุน ทุกช่องทาง ทั้งวิทยุ สถานีโทรทัศน์ การวีดิโอลิงค์ในที่ต่างๆ เพื่อตรวจสอบว่ามีการปลุกระดมมวลชนให้ก่อการใดๆหรือไม่โฆษก ตร.ย้ำทุกฝ่ายพร้อมรับม็อบด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมวันตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิน ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. ได้ประชุมสั่งการเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อให้ทุกหน่วยมีความพร้อมในการดูแลความสงบเรียบร้อย ทั้งช่วงก่อนและหลังการพิพากษาตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดศูนย์ ศปก.ตร. และ ศปก.ขึ้นประจำทุกภาค ตั้งแต่เดือน ก.พ. ขณะนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวที่นำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อย วางกำลังตำรวจในพื้นที่ล่อแหลมให้ พล.ต.ต.ประวุธ ถาวรศิริ รอง ผบช.สทส. ทำหน้าที่โฆษกประจำ ศปก.ตร. แถลงข่าวเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น26 ก.พ. ไม่แรง-ขอโทษ "จตุพร"เวลา 12.30 น. ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ระบุว่าให้วางตัวให้เหมาะสมกับการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หลังที่ตนออกมาระบุว่า คนเสื้อแดงไม่สามารถนำรถกระบะจำนวน 1 แสนคันมาร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 มี.ค. ว่า เรื่องคนเสื้อแดงตนไม่เคยไปเกี่ยวข้องสนับสนุนหรือคัดค้าน ดังนั้น สิ่งที่ตนให้ความเห็นไปหากนายจตุพรไม่สบายใจ ตนต้องกราบขอโทษนายจตุพรและคนเสื้อแดง เพราะที่พูดไปไม่ได้มีนัยอะไรแอบแฝง สำหรับการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 ก.พ. ตนเชื่อว่าศาลจะให้ความเป็นธรรม ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นตกใจหรือรุนแรง ส่วนที่หลายคนมองว่าอำมาตย์จะสั่งศาลได้ ตนก็ไม่คิดเช่นนั้นเพราะตุลาการแต่ละท่านเป็นครูบาอาจารย์ ตัดสินอย่างไรก็จะมีความเห็นส่วนตัว อธิบายได้ ตนไม่เข้าใจคำว่าอำมาตย์ถ่องแท้ ว่ามีนัยแค่ไหน ตนเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย คิดเพียงการล้มรัฐบาลในสภา"ชวรัตน์" ก็เชื่อ 26 ก.พ. ไม่แรงเมื่อเวลา 13.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานตัวเลขประชาชนจากต่างจังหวัดที่จะเดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 ก.พ. แต่เจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบได้ตั้งวอร์รูมดูแลสถานการณ์อยู่ เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่เกิดความรุนแรงเพราะทั้งจากสถานการณ์และการประกาศของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะไม่ออกมาร่วมชุมนุมในวันดังกล่าว จึงไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือน่าเป็นห่วง ทั้งนี้ ตนจะไม่ฝากเตือนอะไรอีกแล้วเพราะทุกคนต่างมีความรับผิดชอบอยู่แล้ว อย่าทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย ประชาชนก็มีความเป็นห่วงเท่าๆกันระบุเสื้อแดงระดมทุนหลาย จว.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงมหาดไทย (ศปก.มท.) รายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า ที่ จ.ลำพูน ได้มีการจัดการประชุมของกลุ่ม นปช.นครหริภุญชัย โดยได้มีการคัดเลือกประธานกลุ่ม มีการคัดเลือกหัวหน้าการ์ด และจะมีการประชุมซักซ้อมการ์ดก่อนที่จะมีการเดินทางเข้า กทม.ในวันที่ 9 มี.ค. ที่ จ.อุตรดิตถ์ กลุ่ม นปช.อุตรดิตถ์ มีการฝึกอบรมให้ความรู้ในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงในระหว่างการชุมนุม รวมทั้งสอนให้มีการสังเกตบุคคลภายนอกที่แอบเข้ามาร่วมชุมนุม ที่ จ.เลย มีแกนนำจากทุกอำเภอประชุมร่วมกันกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวในการเข้าร่วมชุมนุมที่ กทม. ที่ จ.ขอนแก่น กลุ่มคนรักประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น จัดงานร่วมพลคนเสื้อแดงและเชิญชวนให้ สมาชิกคนเสื้อแดงเดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่ กทม. 2,000 คน ที่ จ.อุดรธานี มีการปราศรัยโค่นล้มอำมาตย์ล้มรัฐบาล ล้างบางองค์กรอิสระ 2 มาตรฐาน คืนอำนาจให้ประชาชน โดยมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 1,500 คน โดยภายในงานมีการตั้งโต๊ะบริจาคสมทบทุนซื้อที่ดินสร้างที่ทำการคนรักอุดรแห่งใหม่ หวั่นม็อบเกษตรกรร่วมสนามหลวงผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.มุกดาหาร มีการจัดระดมทุนสำหรับการเคลื่อนไหว มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 400 คน ที่ จ.แพร่ กลุ่มคนพิทักษ์ประชาธิปไตย 52 ชุมนุมประมาณ 70 คน และเชิญชวนให้สมาชิกร่วมชุมนุมที่ กทม. ในวันที่ 14 มี.ค. ที่ จ.ชลบุรี กลุ่มคนรักประชาธิปไตยพัทยา จัดงานรวมพลคนเสื้อแดงตะวันออก โดยมีการจัดเวทีปราศรัยเรื่องยึดทรัพย์หรือปล้นทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมทั้งมีการบริจาคเงินช่วยเหลือพรรคเพื่อไทยที่ จ.ตราด กลุ่ม นปช.ตราดประมาณ 80 คน ชุมนุมหน้าหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด เพื่อเรียกร้องให้ไม่ต้องมีการปฏิวัติรัฐประหาร นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.สุพรรณบุรี จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี ประมาณ 300 คน จะเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยรถกระบะและรถใช้สำหรับการเกษตร เพื่อทวงถามความคืบหน้าการประกันราคาข้าว โดยกระทรวงมหาดไทยเกรงว่ากลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวจะไปร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวงคุมเข้มพื้นที่ กทม.ถึงกลางมีนาฯพล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษา ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ ถึงการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยว่า การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร้องขอกำลังสารวัตรทหารจาก 3 เหล่าทัพ จำนวน 100-200 นาย เพื่อมาช่วยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยใน 5 จุดสำคัญ คือ ศาลฎีกา รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล สวนจิตรลดา และบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยจะมีการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยไปจนถึงช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ "ในสถานการณ์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถร้องขอกำลังทหารได้ทุกเมื่อ แต่หากสถานการณ์มีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรงก็มีโอกาสที่จะประกาศใช้กฎหมายพิเศษ คือ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.รมน.จะเป็นผู้อนุมัติเพื่อจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความเรียบร้อย (ศอ.รส.) เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งหากมีการประกาศใช้จะใช้ระยะเวลาในการประกาศ พ.ร.บ. ความมั่นคงให้น้อยที่สุดและจำกัดพื้นที่ให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน" โฆษก กอ.รมน. กล่าวจับตาคนเขมรลอบร่วมม็อบแดงรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้สั่งการให้ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพ ภาคที่ 1 และ พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับให้กองกำลังตามแนวชายแดนพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังบูรพาและกองกำลังสุรนารี เข้มงวดในการตรวจ สอบประชาชนที่เดินทางเข้าออกบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นพิเศษ เนื่องจากที่ผ่านมามีทางด้านหน่วยข่าวในพื้นที่ได้มีการรายงานว่า อาจจะมีชาวกัมพูชาทยอยเดินทางเข้ามาฝั่งประเทศไทยและไม่เดินทางกลับ เพื่อแทรกซึมเข้ามาในหลายพื้นที่ เพื่อเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง"บัวแก้ว" ตามข่าวฮุน เซน มาชายแดนวันเดียวกัน ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานว่าวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ประเทศกัมพูชา จะเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการในเขตของประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนของประเทศไทยออกไป โดยในส่วนของทางการไทยจะติดตามการเดินทางได้ใกล้ชิดบช.น.เชื่อผู้ชุมนุมไม่มากเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น. กล่าวว่า สถานการณ์การข่าวประชุมร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง พบว่าน่าจะมีมวลชนบางส่วนที่มาฟังคำพิพากษาจำนวนไม่มาก แต่จะมีกลุ่มแดงสยามมาชุมนุมบริเวณสนามหลวง คาดว่าจะมีคนประมาณ 2-3 พันคน เพราะรัฐบาลได้ถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์และวิทยุทั่วประเทศ ทั้งนี้ได้วางกำลังตำรวจตามแผนที่กำหนดคือ ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าบริเวณศาลฎีกา มี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ทาง บช.น.ได้ปรับระดับ ศปก.นครบาล เตรียมพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 25 ก.พ. เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในวันที่ 26 ก.พ. จะเพิ่มตำรวจ ปจ.เป็น 3 กองร้อย โดยให้ชุดปะ ฉะ ดะเข้าพื้นที่และชุดจู่โจม 2-9 เตรียมความพร้อม และให้ตำรวจ จร. 50 นาย ดูแลโดยเตรียมรถยก รถสายตรวจ และรถนำขบวนกรณีมีเหตุฉุกเฉิน ส่วนบริเวณรอบศาลฎีกาได้ใช้กำลังตำรวจ ปจ.อีก 1 กองร้อย พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตรวจก่อนมอบพื้นที่และประจำที่ ศปก.ส่วนหน้าบริเวณศาลตลอดเวลาร่วมกับฝ่ายสืบสวน 50 นาย นอกจากนี้ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. ได้สั่งการให้ทุก บก.พร้อมสนับสนุนกำลังอีก 10 กองร้อย ภายใน 1 ชม.ครึ่ง รวมถึงตำรวจ ปจ.หญิงอีก 100 นาย และจัดเตรียมกำลังจุดจู่โจม บก.1-9 ทั้งหมด 9 หมวด หมวดละ 33 นาย เตรียมพร้อมตลอดเวลาติดกล้องวงจรปิดเพิ่มรอบศาลโฆษก บช.น. กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของ กทม. และได้ติดกล้องวงจรปิดเพิ่มโดยรอบศาลฎีกาฯอีกไม่ต่ำกว่า 20 จุด สภาพพร้อมใช้งานสามารถบันทึกภาพเป็นหลักฐานกรณีมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย รวมถึงการตรวจสอบจุดเสี่ยงที่สามารถยิงอาวุธวิถีตรงและโค้ง ฝ่ายสืบสวนและ บก.สส.ได้ลงพื้นที่เรียบร้อย แล้ว ที่บริเวณศาลฎีกาฯจะมีการติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธ 2 จุด และมีเครื่องตรวจอาวุธแบบมือด้วย ผู้ร่วมชุมนุมเป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น เจ้าหน้าที่ปฏิบัติด้วยหลักเมตตาธรรม แต่ขอให้ใช้วิจารณญาณการแสดงออกให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ผู้สื่อข่าวถามว่า อดีตนายกฯทักษิณจะมีการโฟนอินเข้ามาเป็นระยะๆ อาจเป็นการปลุกระดมจะมีการเฝ้าระวังหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะตอบว่า อดีตนายกฯ โฟนอินอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว และได้มีการเตรียมแผนการไว้ล่วงหน้าเชียงใหม่ 51 บวงสรวงช่วยทักษิณผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ ว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ถนนหน้าโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 และนางกัญญภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม โซ่ขาด แกนนำกลุ่ม ได้จัดทำพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินล้านนานานร่วม 2 ชั่วโมง โดยมีอาจารย์เทพธีร์กรณ์ พรเรืองรอง มัคนายกวัดโลกโมฬี และเจ้าสำนักโหรเทพรักษ์ เจ้าพิธีกรรมโบราณล้านนา รวมถึงคนเสื้อแดงอีกกว่า 500 คน ได้ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงเชิญเหล่าเทพยดาฟ้าดินและสิ่งศักดิสิทธิ์เมืองเชียงใหม่ โดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล กล่าวว่า ทำพิธีเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและเกี่ยวข้องกับคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขอให้ได้รับความยุติธรรมให้ฟ้าดินช่วยเป็นพยานให้ ซึ่งในวันที่ 26 ก.พ. กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จะเปิดเวทีปราศรัยกันตามปกติและไม่เคลื่อนไหวไปไหน ไม่ว่าผลตัดสินออกมาจะเป็นอย่างไร กลุ่มคนรักเชียงใหม่จะไม่ไปกดดันอะไร พวกเรามีประชาธิปไตยพอ แต่ตนดูแล้วหากไม่มีความยุติธรรมเกิดขึ้น ก็อาจจะเป็นตัวเร่งที่จะทำให้การชุมนุมมันเร็วขึ้นลุ้นระทึกคดีประวัติศาสตร์ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการอ่านคำพิพากษาขององค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว นับว่าทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะตึงเครียด ทุกฝ่ายกำลังรอลุ้นคำพิพากษาด้วยความระทึกว่าคำพิพากษาจะออกมาอย่างไร ฝ่ายที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องการให้คืนทรัพย์สินทั้งหมดให้กับครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ทำผิดอะไร และทรัพย์สินก็ได้มาก่อนที่จะเข้ามาเล่นการเมือง ขณะที่กลุ่มต่อต้านก็ต้องการให้ยึดทรัพย์ทั้งหมดตกเป็นของรัฐ เพราะเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้กระทำความผิดในระหว่างที่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งคำพิพากษาของศาลฎีกาครั้งนี้ อาจจะเป็นเหตุให้เกิดเหตุจลาจลได้ หรืออาจจะลามไปสู่วิกฤติทางการเมืองครั้งใหญ่ขึ้นอีกก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่นักสังเกตการณ์ทางการเมือง รวมทั้งนักธุรกิจไทยและต่างประเทศต่างพากันหวาดวิตกกังวลในเรื่องนี้แดงตะวันออกรวมพลรอบุก กทม.วันเดียวกัน ที่บริเวณลานอเนกประสงค์เขาตาโล ถนนสุขุมวิท เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 8 จังหวัดภาคตะวันออก ได้ชุมนุมใหญ่รวมพลคนเสื้อแดง พัทยา ภาคตะวันออก และคนเสื้อแดงทั่วประเทศ เพื่อเช็กกำลังสมาชิก นปช.และคนเสื้อแดงที่จะร่วมเดินทางไปชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ กทม.ในวันที่ 12 มี.ค.ที่จะถึงนี้ โดยมีคนเสื้อแดงจากเขตจังหวัดชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียง อาทิ ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ตราด สมุทรปราการ และ กทม.นับพันคนเดินทางมาร่วมชุมนุมอย่างคึกคัก ทั้งนี้ ในการชุมนุมมีการตั้งเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ ติดป้ายผ้า "รวมพลคนเสื้อแดง พัทยา-ชลบุรี-ภาคตะวันออก หยุด 2 มาตรฐาน โค่นล้มรัฐบาลสมุนอำมาตย์" และมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีเพิลชาแนลไปยังเมืองดูไบประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ชมด้วย โดยแกนนำ นปช.ส่วนกลาง อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายวรชัย เหมะ และนายนิสิต สินธุไพร และบรรดาแกนนำ นปช.ภาคตะวันออก ได้ร่วมกันร้องเพลง "โปรดรักษาความดี" ให้กำลังใจแก่ พ.ต.ท.ทักษิณก่อนการฟังคำตัดสินคดียึดทรัพย์ในช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.พ. จากนั้นแกนนำทั้งหมดได้สลับกันปราศรัยเตรียมความพร้อมให้กลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมทั้งสลับกับการแสดงดนตรีไปจนถึงเวลาประมาณ 24.00 น.จึงสลายการชุมนุมอย่างสงบ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตในการชุมนุมครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้วีดิโอลิงค์มาพูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อแดงเหมือนเคย"ทักษิณ" ยกเลิกปราศรัยชั่วคราวผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีกำหนดจะวีดิโอลิงค์มาปราศรัยกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมเตรียมความพร้อมเคลื่อนพลเข้ากรุงเทพฯในช่วงค่ำในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการชุมนุมที่เมืองพัทยาด้วย แต่ได้มีการสั่งยกเลิกกะทันหัน ที่ประชุมแกนนำ นปช.ส่วนกลาง ยังได้สั่งยกเลิกการแสดงละครเวทีล้อการเมือง เรื่อง "ยึดทรัพย์ & ปล้นทรัพย์ ของทักษิณ ชินวัตร" ที่กำกับการแสดงโดยนายอริสมันต์ ซึ่งมีเนื้อหาพูดถึงยุครุ่งเรืองของประเทศไทยในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนจะตกต่ำข้าวยากหมากแพงหลังจากการปฏิวัติยึดอำนาจ 19 ก.ย.2549 ทั้งนี้นางจุรีพร สินธุไพร แกนนำชมรมคนรักประชาธิปไตย-เมืองพัทยา หนึ่งแกนนำผู้จัดการชุมนุมกล่าวว่า วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ยกเลิกการปราศรัยและให้สัมภาษณ์สื่อทุกแขนงและทุกพื้นที่ เนื่องจากไม่ต้องการแรงกดดันให้กับคณะตุลาการก่อนการพิพากษา แต่จะกลับมาให้ปราศรัยเปิดใจอีกครั้งหลังจากการพิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนการยกเลิกละครเวทีนั้น เนื่องจากเกรงว่าฝ่ายอำมาตย์และรัฐบาลจะนำมาเป็นประเด็นใส่ร้ายป้ายสีคนเสื้อแดงเหมือนสมัยล้อมปราบนักศึกษาธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.2519แดงสยามชุมนุมที่สนามหลวงบรรยากาศที่ท้องสนามหลวง กลุ่มแดงสยาม นำโดยนายสุรชัย แซ่ด่าน นักเคลื่อนไหวสมองเพชร นายสุนัย จุลพงศธร ดาวรัฐสภาแห่งยุค ร่วมกันจัดตั้งเวทีปราศรัย มีเป้าหมายเพื่อต้องการเปิดตัวกลุ่มแดงสยาม จะใช้ท้องสนามหลวงปักหลักปราศรัยนาน 3 วัน โดยเมื่อเวลา 19.00 น. นายสุรชัยขึ้นเวทีกล่าวถึงการชุมนุมครั้งนี้ว่า ไม่ใช่เพื่อการต่อต้านการยึดทรัพย์ของศาล แต่เป็นการต่อสู้เพื่อให้สังคมเข้าใจว่ากลุ่มแดงสยามเรียกร้องระบอบประชาธิปไตย และต้องใช้กฎหมายมาตรฐานเดียวกัน ประชาชนต้องมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พร้อมกับโค่นล้มระบอบอำมาตย์ พร้อมกล่าวโจมตีรัฐบาล และกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ท่ามกลางผู้ฟังประมาณ 200 กว่าคน ตอนท้ายนายสุรชัยได้ทำความเข้าใจในการร่วมฟังคำตัดสินในคดียึดทรัพย์ให้อยู่ในความสงบ ไม่เคลื่อนไหวหรือสร้างความวุ่นวาย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัย ประมาณ 150 นายมท.ผวาตกเป็นเป้าม็อบแดงวันเดียวกัน นายขวัญชัย วงศ์นิติกร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณกระทรวงมหาดไทย สรุปได้ว่า ตามที่กลุ่ม นปช.ได้เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลตามสถานที่ราชการต่างๆและอาจจะมีผู้ไม่หวังดีอาศัยช่วงเวลาดังกล่าวก่อเหตุรุนแรงตามสถานที่ราชการ โดยกระทรวงมหาดไทยอาจตกเป็นเป้าหมาย ประกอบกับนายกฯได้กำชับให้ทุกส่วนราชการเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังสถานที่ราชการให้เข้มงวดมากขึ้น จึงขอให้เตรียมความพร้อมรับมือดังนี้ 1. กำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ ตรวจตราเฝ้าระวังสิ่งผิดปกติต่างๆโดยเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นในสถานที่ราชการและหากพบเห็นบุคคล วัตถุหรือสิ่งผิดปกติที่อาจจะก่อให้เกิดเหตุร้าย ให้รีบแจ้งงานระบบรักษาความปลอดภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันหรือระงับเหตุร้ายนั้นทันที 2. กำชับบุคลากรในสังกัดให้ติดบัตรอนุญาตบุคคลตลอดเวลาที่อยู่ภายในบริเวณกระทรวงมหาดไทย หรือให้แลกบัตรอนุญาตบุคคลชั่วคราวที่ป้อมรักษาการณ์ก่อนผ่านเข้ามาภายในบริเวณกระทรวงมหาดไทย 3. สำหรับส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้พิจารณาจัดเตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยนำแนวทางปฏิบัติดังกล่าวข้างต้นไปปรับใช้ โพลพบชาวบ้านรับคำพิพากษานายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่องเสียงสะท้อนของกลุ่มพลังเงียบ ผู้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต่อกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดียึดทรัพย์ของนักการเมือง : กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,106 กลุ่มตัวอย่างพบว่า ส่วนใหญ่คือร้อยละ 60.2 ไม่อยู่ฝ่ายใด (พลังเงียบ) ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือพลังเงียบ ถึงสิ่งต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดียึดทรัพย์ของนักการเมือง ภายหลังมีข่าวลือสินบนให้แก่กลุ่มบุคคลในกระบวนการยุติธรรม พบว่า ร้อยละ 52.9 ระบุไม่มีผลกระทบและยังคงเชื่อมั่นในความเสมอภาค เท่าเทียมกัน และไม่เลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม ในขณะที่ร้อยละ 23.0 ระบุมีผลกระทบทำให้ไม่เชื่อมั่น นอกจากนี้ ตัวอย่างร้อยละ 53.8 ระบุเชื่อมั่นในความเป็นอิสระ/ไม่ถูกแทรกแซงของกระบวนการพิจารณาคดีต่างๆ ในขณะที่ร้อยละ 21.0 ไม่เชื่อมั่น และร้อยละ 25.2 ไม่ระบุความคิดเห็น สำหรับความคิดเห็นของตัวอย่างในกลุ่มพลังเงียบต่อการยอมรับคำพิจารณาของกระบวนการยุติธรรมในคดียึดทรัพย์ของนักการเมืองนั้นพบว่า ร้อยละ 61.4 ระบุควรยอมรับคำพิจารณา ในขณะที่ร้อยละ 20.2 ระบุไม่ควรยอมรับ นอกจากนี้กลุ่มพลังเงียบ ร้อยละ 87.6 เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเจริญเติบโตมากกว่ากลุ่มประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ ถ้าคนไทยรักและสามัคคี ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบสุข ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 12.4 เท่านั้นที่ไม่เชื่อมั่นว่าจะเป็นเช่นนั้นชี้ "เนวิน" กำลังสุขในยุคอำมาตย์วันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ดอทคอม ตอบข้อซักถามผู้เล่นรายหนึ่ง ที่ถามว่า "ถ้าท่านได้กลับมาเป็นนายกฯอีก ไม่ต้องพึ่งคนพวกนี้อีกได้หรือไม่ บรรหาร สุวิทย์ เนวิน" พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า "อย่าไปสนใจตาชัยแกพูดเลย พูดเพื่ออำนาจต่อรองลูกชายแกเท่านั้น ไม่มีช่วงไหนแกจะ happy เท่านี้ ผมผิดเองที่ไปตั้งแก เพราะเชื่อคารมลูกแก" เมื่อผู้เล่นอีกรายหนึ่งระบุว่า "ผมไม่ชอบเนวินคับ ทำไงดี ไม่ชอบคนตอแหลจริงๆ รับไม่ได้ สร้างภาพน่าดู" พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า "ช่วงนี้อำมาตย์ได้คนประเภทนี้ไว้ใช้เยอะ และคนแบบนี้ก็กำลังมีความสุขในยุคที่เป็นพวกอำมาตย์ทำอะไรก็ไม่ผิด (ถ้ามั่วไม่ไหวก็จะเลื่อน)" นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังโพสต์ ข้อความด้วยว่า "พรรคประชาธิปัตย์ใช้กลไกของรัฐเพื่อจัดการคู่แข่งทางการเมืองอย่างไม่อาย ข้าราชการต้องไม่ตกเป็นเครื่องมือ เพราะไม่มีใครเป็นศัตรูกับรัฐ พรุ่งนี้ต้องไป ABU DHABI เคารพพระศพเจ้าของที่นี่ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเชคที่เป็นสปอนเซอร์วีซ่า UAE ให้ผม"แฉ "เทือก" สั่งระดมคนชนเสื้อแดงวันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.45 น. ที่พรรคเพื่อไทยนายคณวัฒน์ วิศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในวันที่ 26 ก.พ. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท โดยพรรคได้นัดหมายกันตั้งแต่เวลา 12.00 น. จนถึงศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จ ให้ ส.ส. กรรมการบริหารพรรค บ้านเลขที่ 111 นายกฯทั้ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และอดีตรัฐมนตรี รวมถึงสมาชิกพรรค มารวมตัวกันที่ทำการพรรค เพื่อติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด พร้อมให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและครอบครัว โดยท่านจะวีดิโอลิงค์เข้ามาที่พรรคเป็นระยะๆ อย่างไรก็ตาม พรรคได้เตรียมอำนวยความสะดวกรองรับประชาชนและสื่อมวลชนด้วย อย่างไร ก็ตาม ได้รับคำร้องเรียนจากข้าราชการกระทรวงมหาดไทยที่อึดอัดใจหลังจากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุม กอ.รมน.จว.ว่า แทนที่นายสุเทพจะสั่งให้ ผวจ.ทุกจังหวัดป้องปราม กลับสั่งให้ ผวจ.ทุกจังหวัดเตรียมมวลชนมาชนมวลชนเสื้อแดงเป็นการพูดปลุกระดมให้เกิดการเผชิญหน้า ถือเป็นคำสั่งที่น่าเกลียด และในวันดังกล่าวที่มีการประชุม กอ.รมน.จว. ยังมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ในบริเวณนั้นด้วย สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน พท.เล็งชำแหละคดียึดทรัพย์ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ในวันดังกล่าวจะเป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองและการบังคับใช้กฎหมายของประเทศไทย เพราะคดีนี้ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินการโดยผ่านกลไกของกฎหมายปกติ ดังนั้น หลังศาลพิพากษาแล้วจะได้มาวิเคราะห์ปัญหาข้อกฎหมาย คือ 1. กฎหมายที่จะนำมาบังคับใช้ต้องตราขึ้นโดยรัฐสภา ที่สมาชิกมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน หากยอมรับคำสั่งของคณะรัฐประหารเป็นกฎหมายบังคับใช้แล้ว ปัญหาประเทศไทยจะยังคงความเป็นนิติรัฐอยู่หรือไม่ 2. เมื่อปรากฏทรัพย์สินของบุคคลที่มีอยู่ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯจะเป็นปัญหาและข้อพิสูจน์ว่าหลักนิติธรรมในระบบกฎหมายเป็นเพียงหลักการในอุดมคติ หรือมีผลบังคับใช้จริงที่เป็นรูปธรรม ดังนั้น หวังในความยุติธรรมของศาล ส่วนผลคดีจะเป็นอย่างไรคงอยู่ที่ดุลพินิจของศาลเสื้อแดงไล่นายกฯหน้าพุทธมณฑลวันเดียวกัน เมื่อเวลา 17.40 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานพิธีพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชาประจำปี 2553 ที่บริเวณหน้าองค์พระประธานพุทธมณฑล พุทธมณฑลสาย 4 จ.นครปฐม โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ คณะปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์จำนวน 5,000 รูปและพุทธศาสนิกชนจำนวน 5,000 คน เข้าร่วมพิธี เมื่อรถขบวนของนายอภิสิทธิ์ไปถึงได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 40 คน มายืนเขย่าตีนตบโห่ไล่อยู่บริเวณปากทางเข้าบริเวณพุทธมณฑล โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนเท่าๆกันคอยยืนกันให้รถขบวนของนายอภิสิทธิ์ผ่านไปได้อย่างเรียบร้อย นอกจากนี้ ในบริเวณงานยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจกว่า 500 นาย พร้อมรถควบคุมผู้ต้องหาอีกจำนวน 5 คัน จอดเตรียมพร้อมไว้ด้วย ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ใช้เวลาประกอบพิธีประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเดินทางกลับโดยไม่ให้ สัมภาษณ์ใดๆ"ชวรัตน์" ไม่ตั้ง กก.สอบซื้อตำแหน่งวันเดียวกัน ที่กระทรวงมหาดไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายศิวะ แสงมณี อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุจะตั้งชมรมราชสีห์ผู้ภักดีต่อแผ่นดินเพื่อเป็นที่พึ่งของข้าราชการให้ร้องเรียนปัญหาต่างๆว่าเป็นเรื่องที่ดี เพื่อจะได้รู้ข้อเท็จจริง ให้ชัดเจนและหมดข้อสงสัย ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้ตั้งคณะกรรมการขึ้น 1 ชุด เพื่อสอบสวนกรณีปัญหาการทุจริตสอบโรงเรียนนายอำเภอแล้ว ส่วนที่มีการเสนอให้กระทรวงมหาดไทยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบกรณีปัญหาการซื้อขายตำแหน่งด้วยนั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูล เพราะไม่มีการซื้อขายตำแหน่งตามที่เป็นข่าว เป็นพียงข่าวเลื่อนลอย สำหรับนายจาดุร อภิชาตบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องการซื้อขายตำแหน่งก็ยังไม่ได้มีการเข้ามาชี้แจงหรือให้ข้อมูลมาที่ตนเองแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการสั่งปลดนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง นั้น ก็ไม่ได้ยินข่าวดังกล่าว ยังสามารถทำงานร่วมกันได้ตามปกติ และที่ได้พูดคุยกัน อธิบดีกรมการปกครองบอกว่า "ปวดหัว มีแต่ข่าวที่ไม่เป็นความจริง"เผยวอร์รูม ปชป.จับตาคดียึดทรัพย์วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในวันตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท คณะทำงานติดตามสถานการณ์การเมืองพรรคประชาธิปัตย์ (วอร์รูม) ที่มีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ เป็นประธาน จะมีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การณ์ตั้งแต่เวลา 10.00 น. และวอร์รูมจะติดตามสถานการณ์อย่างเข้มข้น ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. ไปจนกระทั่งสถานการณ์คลี่คลายลง ซึ่งวอร์รูม จะประชุมทุกวันโดยจะเชิญผู้ใหญ่ในพรรคเข้าประชุมด้วย อาทิ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค นายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ ส.ส.สัดส่วน ซึ่งวอร์รูม จะประสานกับ คตม.ของรัฐบาลเพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ ทราบว่านายบัญญัติที่เป็นนักกฎหมายจะเข้าไปร่วมฟังการตัดสินในฐานะส่วนตัวโต้ "จตุพร" ให้รับผิดชอบเหตุการณ์นายเทพไทกล่าวตอบโต้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง ที่พาดพิงพรรคประชาธิปัตย์และรัฐบาลว่า หากมีอะไรเกิดขึ้นใน 1-2 วัน รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบว่าเป็นการพูดป้องกัน ตนเองเหมือนกับว่าจะมีความผิดปกติเกิดขึ้น ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะไม่ใช่ฝีมือของรัฐบาลแน่นอน แต่จะรับผิดชอบตามกรอบกฎหมายเท่านั้น สำหรับคำประกาศที่ว่าการชุมนุม 7 วันแล้วไม่จบก็จะกลับไปตั้งฐานที่มั่นแล้วจะกลับมาชุมนุมต่อ จึงอยากเรียกร้องให้แกนนำว่าชุมนุม 7 วันไม่จบ ก็อยากให้สลายการชุมนุมและรักษาคำพูดของตนเอง เพื่อให้ โอกาสกับชาติบ้านเมืองเพราะหากเคลื่อนไหวอีกเหมือนกับเป็นการเลี้ยงไข้ถือเป็นการทำลายประเทศชาติพท.ขู่รัฐม็อบแดงพร้อมระเบิดพลีชีพวันเดียวกัน เมื่อเวลา 08.50 น. ที่รัฐสภา พ.ต.ท. สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยและประธานคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 14 มี.ค. ของ นปช.ว่า ทางออกของรัฐบาลคือยุบสภาหรือเปิดให้มีการเจรจาดีที่สุด อย่าปล่อยให้มีการชุมนุมเกิดขึ้นเพราะมวลชนที่มาชุมนุมความคิดไปไกลมาก ไม่กลัวติดคุกไม่ยอมรัฐบาล สิ่งที่ไม่ได้เห็นอาจได้เห็นเพราะเขาถูกกดขี่มานานจนทำให้อารมณ์ระเบิดออกมาได้ บางคนถึงกับระบายออกมาว่าจะติดระเบิดพลีชีพเข้าไปร่วมชุมนุมปูดรัฐขึ้นบัญชีดำเครือข่ายทักษิณพ.ต.ท.สมชายกล่าวต่อว่า ล่าสุดยังมีคนมาร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการฯว่า หน่วยงานความมั่นคงได้ขึ้นบัญชีดำคนในระบอบทักษิณ 200 คน ที่จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ตามประกบตลอดเวลา ดังนั้น ขอประณามรัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคงที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล สร้างความหวาดกลัวต่อครอบครัวของคนที่ถูกขึ้นบัญชีดำ และเป็นชนวนนำไปสู่ความรุนแรงได้ ดังนั้นจึงได้ออกหนังสือเชิญ ศรภ. ตำรวจสันติบาลและคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) มาชี้แจงในวันที่ 3 มี.ค. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไรขุดข้อมูลเก่าล้วนแกนนำ นปช.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เอกสารที่คณะกรรมาธิการการทหารอ้างว่า มีคนมาร้องเรียนนั้น เป็นขนาดเอ 4 จำนวน 7 แผ่น ไม่ปรากฏแหล่งที่มาว่ามาจากหน่วยงานใด โดยได้มีข้อความที่สำคัญได้ระบุว่า เอกสารนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2553 เป็นการเปิดโฉม 200 รายชื่อบัญชีดำคนในระบอบทักษิณที่ต้องจับตาใกล้ชิดเป็นพิเศษที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และบางคนเอื้อประโยชน์ให้กับระบอบทักษิณ พิทักษ์ปกป้องระบอบทักษิณ แบ่งออกเป็น 2 บัญชี บัญชีที่ 1 มีจำนวน 100 รายชื่อ เช่น แกนนำ นปช.ชุดที่ 1 ทั้ง 9 คน อาทิ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช.ชุดที่ 2 (ชุดรักษาการ) มี 9 คน อาทิ นายสมยศ พกฤษาเกษมสุข นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำหลักคนอื่น อาทิ นายอดิศร เพียงเกษ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพบัญชี 2 ชื่อผู้สนับสนุนระบอบทักษิณ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบัญชี 2 จำนวน 100 รายชื่อ ประกอบด้วยญาติ คนใกล้ชิด นักการเมือง นักธุรกิจ นายทุน สื่อ ข้าราชการและอดีตข้าราชการทั้ง ตำรวจ ทหาร เช่น นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายพายัพ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ในเอกสารเขียน น.ส.ยางลักษณ์) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. นางเยาวเรศ ชินวัตร พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ ติยะไพรัช คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายประยุทธ มหากิจศิริ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม"สุเทพ" สั่งสันติบาลเกาะติดข่าวเข้มผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 13.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้เรียก พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิชัย ผบช.ส. และนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ มาหารือนานราว 1 ชั่วโมง ก่อนเปิดเผยว่า ตนได้ให้ตำรวจสันติบาลไปดูแลข่าวคราวทั้งหลายให้ชัดเจนมากขึ้น ไม่มีอะไรพิเศษ ตอนนี้ก็ยังไม่มีรายงานการข่าวอะไร ส่วนการชุมนุมของกลุ่มแดงสยามที่ท้องสนามหลวงก็ว่ากันไป ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ถ้ามีแล้วตนจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบ ทั้งนี้ตนยังไม่ได้นัดหารือคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม). แต่อย่างใดคุมเข้มทำเนียบช่วงยึดทรัพย์ "ทักษิณ"เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่กรมสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้นำเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด และสุนัขตำรวจ มาตรวจหาวัตถุระเบิด และสิ่งแปลกปลอมในบริเวณพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาลอย่างละเอียด โดยใช้เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด และสุนัขเดินตรวจรถทุกคันที่จอดอยู่รอบแนวกำแพงทำเนียบรัฐบาล ตลอดจนตรวจค้นตามพุ่มไม้ และถังขยะอย่างละเอียด เพื่อให้เป็นไปตามแผนรักษาความ ปลอดภัยสถานที่สำคัญต่างๆ เนื่องจากจะมีการพิจารณาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ยังมีการเตรียมประสานนำกำลังทหารเข้ามาดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 26 ก.พ. เพื่อเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยตามแผนป้องกันรักษาสถานที่สำคัญ เพื่อไม่ให้มีมือที่สามมาก่อเหตุพท.ค้านนำมวลชนชุมนุมใหญ่ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 23 ก.พ. ส.ส.จำนวนหนึ่ง อาทิ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรองเลขาธิการนายกฯ ไปกินอาหารค่ำที่ร้านโฮคิตเช่น ย่านเหม่งจ๋าย เพื่อหารือถึงสถานการณ์การเมือง โดยนายไชยากล่าวว่า ต้องเรียกว่าเป็นการคุยกันของคนถูกคอมากกว่า เพื่อวิเคราะห์ถึงเรื่องในพรรค และสถานการณ์การเมืองก่อนและหลังวันที่ 26 ก.พ. โดยที่ผ่านมาได้เสนอต่อพรรคว่าพรรคกับเสื้อแดงต้องทำงานเป็นคู่ขนาน แต่ไม่ใช่ขัดแย้งกัน ไม่ใช่ให้เสื้อแดงขับเคลื่อนเสร็จก่อน ฝ่ายค้านถึงยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ แบบนี้สังคมรับไม่ได้ อย่างไรก็ตาม วันนี้ ส.ส.ต้องกลับพื้นที่แทนที่จะเอาคนเข้ามาใน กทม. ก็จัดหาพื้นที่ให้ชาวบ้านได้แสดงออกพร้อมกัน 19 จังหวัด ทำเช่นนี้คนมาชุมนุมมากกว่าล้านอีก รัฐบาลจะอยู่ได้อย่างไร แต่หากนำเข้ามาชุมนุมใน กทม. สุ่มเสี่ยงต่อการแทรกซ้อน หากชาวบ้านในจังหวัดนั้นๆล้มหายตายจากไปสักคน ก็ไม่พ้น ส.ส.ในจังหวัดต้องรับผิดชอบ ส่วนคนเสื้อแดงก็ให้เคลื่อนไหวไปที่จะชุมนุมใหญ่ใน กทม. แต่ยึดโยงกับพรรคเพื่อไทย"ชัจจ์" กาวใจ "เฉลิม" นำซักฟอก นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคว่า ขณะนี้ ส.ส.แสดงความอึดอัด ไม่สบายใจ อยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ลดเงื่อนไขลงบ้าง เพราะหากไม่เป็นหลักในการอภิปราย พรรคก็หาคนลำบาก ดังนั้นเลยอยากให้ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ที่เป็นผู้ใหญ่สนิทกับ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นกาวใจคุยกันให้เรียบร้อย เพื่อขับเคลื่อนการเมืองต่อไปเพื่อไทยจี้นายกฯ ไล่ส่งภูมิใจไทยวันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.15 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ทั้งนี้ หลังจากที่ประชุมได้มีการพิจารณากระทู้ถามทั่วไปเสร็จสิ้น นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดถามนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เรื่องการซื้อขายโยกย้ายตำแหน่งของข้าราชการ ทั้งในระดับนายอำเภอ ผวจ. และระดับต่างๆ จนทำให้ภาพลักษณ์ของกระทรวงมหาดไทยในขณะนี้ตกต่ำสุดขีด แต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมข้ามหัวข้ามอาวุโสอย่างน่าเกลียด อยากถาม รมว.มหาดไทยว่าจะปล่อยให้มีขบวนการแบบนี้ต่อไปอีกหรือ วันนี้ประชาชนจะหวังพึ่งใครได้ เพราะกลายเป็นว่าบังคับให้คนหาเงินมาซื้อตำแหน่ง แล้วมีการสั่งการด้วยวาจา อยากทราบว่านายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และประธานคณะทำงาน รมว.มหาดไทย รู้เห็นเป็นใจกับเรื่องนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีจะแสดงความรับผิดชอบปกป้องข้าราชการดีๆที่ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างไร หากพบว่า รมว.มหาดไทยและสตาฟฟ์มีพฤติการณ์เช่นนี้ นายกรัฐมนตรีจะกล้าขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่"บุญจง" ยันแต่งตั้ง ผวจ.ถูกกฎหมายด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทนนายชวรัตน์ว่า รมว.มหาดไทยไม่เคยมีความคิดตามที่นายสุรพงษ์กล่าวหา เพราะการแต่งตั้ง ผวจ.จะยึดเกณฑ์ของกฎหมายและระเบียบปฏิบัติของ ก.พ.ทุกประการ เมื่อมีการกล่าวหาว่าคนจะเป็น ผวจ.ต้องหาเงิน 20-30 ล้านบาท กระทรวงมหาดไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว มีนายศักดิ์ เตชาชาญ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธาน นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจำนวนมากก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่าไม่เคยมีการซื้อตำแหน่ง โดยเฉพาะรอง ผวจ.ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ขึ้น ผวจ. ก็ยังออกมายืนยันว่าไม่ได้ซื้อตำแหน่ง ส่วนประเด็นข้อกล่าวหาประธานคณะทำงานนั้น เขาก็ต้องใช้สิทธิ์ในการฟ้องร้องเพราะเขาบริสุทธิ์"อภิสิทธิ์" สวนกลับกระทู้ "เฉลิม"จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรค เพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี เรื่องการฆ่าตัดตอนคดีค้ายาเสพติด การตั้งกองกำลังติดอาวุธภายในประเทศ และการลักลอบขนเงินตราเข้ามาในราชอาณาจักรว่า อยากทราบผลการดำเนินคดีเรื่องฆ่าตัดตอนคดียา เสพติดจำนวน 2,500 ศพ สรุปว่าเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นตามที่พรรคประชาธิปัตย์ได้พยายามกล่าวหามาตลอดหรือไม่ เพราะมีการนำคดีอื่นๆมารวมกับคดีฆ่าตัดตอนด้วย ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าตนก็อยากพิสูจน์เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่เกรงว่าหากหยิบผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบกรณีฆ่าตัดตอนคดีค้ายาเสพติดขึ้นมาดำเนินการต่อ ก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นการกลั่นแกล้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิมหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาถามจึงเป็นเรื่องดี หลังจากวันนี้ตนจะตั้งคณะกรรมการอีกชุดหนึ่งต่อจากคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ ศึกษาและวิเคราะห์นโยบายปราบปรามยาเสพติด และการนำนโยบายไปปฏิบัติจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียงและทรัพย์สินของประชาชน (คตน.) ที่ตั้งในสมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าตัดตอนหรือไม่ รวมไปถึงการนำเสนอเรื่องเข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศด้วย"เทือก" เล่นด้วยโต้ "เฉลิม" กลางสภาร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ถามต่อว่า คตน.ได้สรุปมาแล้วว่ามีการนำคดีต่างๆมารวมอยู่ในคดีฆ่าตัดตอนด้วย และสรุปมาแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนั้นยังอยากทราบข้อมูลที่นายปณิธาน วัฒนายากร พูดเป็นตุเป็นตะชอบไปซื้อน้ำเต้าที่ตลาดว่ามีการตั้งกองกำลังติดอาวุธภายในประเทศว่าเอาข้อมูลมาจากไหน เพราะนายปณิธานเองเป็นนักวิชาการที่อิงพรรคประชาธิปัตย์ นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงกรณีนายปณิธาน โดยยืนยันว่า การให้ข่าวของนายปณิธานทุกครั้งไม่เคยบิดเบือน และก็ไม่เคยมีประวัติแบบนี้ เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า คนที่พูดเรื่อง กองกำลังติดอาวุธคนแรก คือ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หลังเดินทางกลับจากดูไบ ว่าจะตั้งกองทัพประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมี พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) จากนั้นจึงมีสื่อมวลชนมาถามตนและนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงได้ตอบไปตามความจริงว่ามีการฝึกจริง และมีการนำกองกำลังไปฝึกตามจังหวัดนั้นจังหวัดนี้ นอกจากนั้น แกนนำคนเสื้อแดงเองก็เคยออกมาพูดเรื่องนี้ว่า เสธ.แดงได้ส่งนักรบชุดดำหรือกองกำลังนินจาเข้ามาเป็นการ์ดดูแลเสื้อแดงอุดร ส่วนการลักลอบขนเงินเข้ามาในราชอาณาจักรนั้น ตนมีข้อมูลและมีเอกสารอยู่ในมือจริงว่าโอนเงินมาที่ใคร จำนวนเท่าไหร่และให้ใครบ้าง แต่ เป็นเรื่องของความมั่นคงไม่สามารถนำมาพูดในที่นี้ได้ปธ.วิปปัดข้อหา ส.ส.รัฐทำสภาฯล่มอีกเรื่อง วันเดียวกันที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่ารัฐบาลตั้งใจให้การประชุมสภาฯล่ม เพราะไม่ต้องการให้ญัตติเรื่องการศึกษาการป้องกันการปฏิวัติรัฐประหารเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯว่า ไม่เป็นความจริง การประชุมสภาฯล่มครั้งนี้เกิดจากบรรดา ส.ส.ติดประชุมคณะกรรมาธิการในห้องอื่น จึงมาแสดงตนไม่ทัน และถ้ามีผู้เข้าร่วมประชุมครบองค์ ประชุม เราก็คว่ำญัตตินี้อยู่แล้ว โดยที่ผ่านมาฝ่ายค้านเคยเข้าหารือกับตนว่าจะขอให้ที่ประชุมพิจารณาญัตติดังกล่าว แต่ตนไม่เห็นด้วยและปฏิเสธไปแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านจะเอาเรื่องที่เป็นข่าวลือที่พูดเองนอกสภาฯว่าจะมีการปฏิวัติทั้งที่ไม่มีมูลความจริง มาพูดในสภาฯ ตนคงยอมไม่ได้ เพราะจะเป็นการใช้สภาฯเป็นเครื่องมือลั่นฝ่ายค้านเตะขาตัวเองล้ม"เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าฝ่ายค้านเสียค่าโง่เองเตะขาตัวเองล้ม อยู่ในห้องประชุมสภาฯแต่ไม่เสียบบัตรแสดงตนเอง ก็ต้องเป็นอย่างนี้ จะมาบ่นไม่ได้" นายวิทยา กล่าวและว่า "ส่วนแนวทางการแก้ปัญหาสภาฯล่ม ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของ ส.ส.เอง ซึ่งวิปรัฐบาลพยายามคัดปลาเน่าออก โดยในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์จะรวบรวมรายชื่อผู้ขาดประชุมเสนอให้ประธาน ส.ส.นำเข้าที่ประชุม ส.ส.พรรค เพื่อหาทางแก้ปัญหาต่อไป"ชงนายกฯเชือด รมต.โดดประชุมต่อมานายวิทยา แก้วภราดัย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้แถลงเพิ่มเติมกรณีเกิดเหตุสภาล่มว่า ในส่วนรัฐมนตรีที่ไม่อยู่ในห้องประชุม ตนจะรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไปตักเตือนส่วนจะใช้วิธีการใดขึ้นอยู่กับนายกฯดำเนินการ ในส่วนของ ส.ส.ตนจะเข้าหารือกับประธานสภา เรื่องวิธีการตรวจสอบองค์ ประชุมที่ปกติจะใช้วิธีเสียบบัตรแสดงตน แต่เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ตนจะขอให้เจ้าหน้าที่ใช้วิธีเดินนับคนที่อยู่ในห้องประชุมซึ่งในอดีตเคยทำกันมา เพราะอยู่ในดุลยพินิจที่ประธานสภาสามารถทำได้สภาผู้แทนฯประชุมล่มซ้ำซากเมื่อเวลา 13.30 น. สภาผู้แทนราษฎรต้องล่มซ้ำซากอีกครั้ง หลังเสร็จสิ้นการพิจารณากระทู้ถามทั่วไปและกระทู้สดและถอนเรื่องรับทราบรายงานเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศของคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร จนนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องชิงปิดประชุมสภาฯเนื่องจากองค์ประชุมไม่ถึงกึ่งหนึ่งระหว่างการสอบถามที่ประชุมว่าจะให้อภิปรายการเสนอญัตติด่วนของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เรื่องขอให้สภาฯพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อหามาตรการป้องกันการรัฐประหารหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้ นพ.ชลน่านได้เคยเสนอญัตติดังกล่าวด้วยวาจามาแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.พ. แต่ปรากฏว่าองค์ประชุมต้องล่มไปเสียก่อน ทำให้ นพ.ชลน่านได้เสนอญัตติดังกล่าวเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมอีกครั้ง โดยนายสามารถขอให้มีการตรวจสอบองค์ประชุมทันที ก่อนที่จะมีการลงมติว่าจะมีการพิจารณาญัตติดังกล่าวหรือไม่ ผลปรากฏว่ามี ส.ส.กดบัตรแสดงตนเพียง 222 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม จึงต้องสั่งปิดการประชุมทันทีในเวลา 13.30 น.ภูมิใจไทยชี้ลางสังหรณ์รัฐบาลล่มที่รัฐสภา นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ประธาน ส.ส.พรรคภูมิใจไทยและคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ส.ส.พรรคภูมิใจไทยเข้าประชุมสภาฯครบ ส่วนที่ไม่ครบต้องไปถามพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียง ส.ส.มากที่สุด แต่เชื่อว่าสาเหตุหลักคงเป็น ส.ส.ต่างจังหวัดได้ เดินทางกลับพื้นที่มากกว่า เพราะวันนี้ไม่มีวาระสำคัญ ทั้งนี้ตนก็เป็นห่วงเพราะการประชุมสภาล่มบ่อยอาจเป็นลางสังหรณ์ที่อาจทำให้กระทงล้มก็ได้ ด้านนายธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า สาเหตุที่สภาฯล่มเพราะเป็นความผิดของนายสามารถที่รวบรัดการนับองค์ประชุม เพราะส.ส.ส่วนใหญ่กำลังประชุมคณะกรรมาธิการอยู่ ดังนั้น เมื่อนับองค์ประชุมแล้วพบว่ายังไม่ครบควรจะพักองค์ประชุมสักระยะเพื่อรอให้ ส.ส.เข้าห้องประชุมไม่ใช่สั่งปิดประชุมเลย ยืนยันว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลมาประชุมครบถ้วน ไม่มีใครโดดร่มป.ป.ช.นัดประธานศาลฎีกาหย่าศึกอีกเรื่อง วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส. สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงปัญหาระหว่างผู้พิพากษากับคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีตั้งอนุกรรมการไต่สวนนายอิทธิพล โสขุมา ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการออกหมายจับนายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คดีหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมิชอบ ว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จะรวบรวมข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในคดีดังกล่าวเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ป.ป.ช. ชุดใหญ่ วันที่ 2 มี.ค. เพื่อหารือว่าจะออกแถลงการณ์ชี้แจง หรือทำอย่างไรต่อไป แต่เบื้องต้นนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. ได้ขอเวลาเข้าพบนายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง แต่นายสบโชคยังไม่ตอบกลับมาว่าจะให้พบเมื่อใด เชื่อว่าถ้าได้พูดคุยกันคงเข้าใจกันได้ ดีกว่าการให้สัมภาษณ์ตอบโต้กันไปมาผ่านสื่อมวลชน
อ้างอิง